ต้องยอมรับว่า เรื่องของชุดชั้นใน ชิ้นเสื้อผ้าที่ใกล้ตัวเราสุดๆ นั้น กลับกลายเป็นเรื่องที่เราไม่ค่อยสังเกตหรือใส่ใจเท่าไหร่นัก ทุกวันนี้บางคนอาจจะยังใส่บรานอน (เอ้า...แล้วคนอื่นๆ เค้าไม่ใส่บราเข้านอนกันเหรอ? ) บางคนอาจจะยังไม่รู้จักความต่างระหว่างขนาดคัพกับขนาดรอบอก บางคนอาจจะยังใส่ชุดชั้นในตัวเดิมๆ ที่ใส่มาเป็นนานถึง 3 ปีแล้ว (เอ้า...ก็แล้วเค้าต้องเปลี่ยนชุดชั้นในกันเหรอ ? ) สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ จิ๊บจ๊อย แต่จริงๆ แล้วส่งผลต่อรูปทรงหน้าอกหน้าใจของเราๆ อย่างมหาศาลเลยทีเดียวค่ะ
8 เรื่องเกี่ยวกับ ชุดชั้นใน และหน้าอกหน้าใจ ที่เราอาจไม่เคยรู้
1.ขนาดคัพกับขนาดรอบอก เป็นคนละอย่างกัน
ขนาดคัพคือขนาดของเต้านม ส่วนรอบอกคือการวัดรอบตัวจากด้านหลังมาจรดยอดหัวนม การจะวัดขนาดคัพให้ได้ผลแม่นยำนั้น เริ่มแรกให้วัดรอบอก (จุดสูงสุด) ใช้หน่วยเป็นเซนติเมตร
จากนั้นให้วัดรอบลำตัว (ถัดลงมาใต้หน้าอก) ใช้หน่วยเซนติเมตรเช่นเดียวกันค่ะ สมมติว่า รอบอกได้ 81 เซนติเมตร / รอบลำตัวได้ 70 เซนติเมตร นำค่าทั้งสองมาลบกันค่ะ ก็จะได้ 81-70= 11 ผลลัพธ์เท่ากับ 11 เป็นค่าผลต่างที่จะบอก คัพ ของเรานั่นเองค่ะ โดยมีมาตราเปรียบเทียบขนาดคัพไว้ดังนี้
มาตราเปรียบเทียบขนาดคัพ
9.0-11.0 ซม. = คัพ A
11.5-13.5 ซม. = คัพ B
14.0-16.0 ซม. = คัพ C
16.5-18.5 ซม. = คัพ D
19.0-21.0 ซม. = คัพ E
21.5 ซม. ขึ้นไป = มากกว่าคัพ E
นั่นเท่ากับว่าเราต้องใส่ยกทรงไซซ์คัพ A70 นั่นเองค่ะ
2. หน้าอกหน้าใจของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
การรู้คัพ รู้ขนาดรอบอกตัวเองนั่นสำคัญมากค่ะ จะช่วยให้เราเลือกชุดชั้นในที่สวมใส่ได้พอดี ไม่แน่นเกินไปและไม่หลวมเกินไป แต่ด้วยรูปทรงของหน้าอกสาวๆ แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งฮอร์โมนในร่างกายสาวๆ เราเองก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้รูปทรงและขนาดหน้าอกของผู้หญิงหนึ่งคนมีความแตกต่างในแต่ละช่วงเวลา อย่างเช่น ช่วงเวลามีประจำเดือน ช่วงเวลาตั้งครรภ์ เป็นต้นขนาดหน้าอกก็จะไม่เท่ากันนั่นเองค่ะ ดังนั้นทุกครั้งที่สาวๆ จะเลือกซื้อบราใหม่ ควรลองสวมใส่ก่อนซื้อทุกครั้งค่ะ เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้เลือกบรามาถูกขนาด พร้อมซัพพอร์ตหน้าอกของให้กระชับ ไม่หย่อนคล้อย และไม่แน่นจนส่งผลเสียต่อร่างกายค่ะ
3. สวมบราดันทรงขนาดเล็กเพื่อเสริมอึ๋มแทนการศัลยกรรมได้หรือไม่
การสวมบราดันทรงขนาดเล็กอาจให้ผลลัพธ์ที่สาวๆ ยืดอกได้อย่างภูมิใจชั่วครั้งชั่วคราวก็จริง แต่ส่งผลเสียต่อร่างกายเราเองในระยะยาวค่ะ การสวมใส่ยกทรงที่แน่นเกินไปจะทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ไม่เต็มที่ หน้าอกเบียดเสียดแออัดจนเกินไป ทำให้กระดูกหลังผิดท่า ก่อให้เกิดอาการปวดหลัง และ อาการบวมน้ำเมื่อมีประจำเดือนด้วยค่ะ
Source
4. โนบราเข้านอนดีหรือไม่
เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในเรื่องนี้ทั้งในแวดวงสาวๆ และแวดวงวิชาการทางการแพทย์ ซึ่งการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระบ้าง ก็ไม่ได้ผิดแต่อย่างใด แต่มีคำแนะนำสำหรับสาวๆ ที่มีหน้าอกขนาดใหญ่หรือสาวๆ ที่ผ่านการผ่าตัดเสริมหน้าอกมาจำเป็นอย่างมากที่สมควรจะใส่ชุดชั้นในนอน เพราะหากไม่ใส่ อาจทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย ไม่เป็นทรง แนะนำว่าสาวๆ ที่มีหน้าอกใหญ่ทั้งหลายเหล่านี้ควรเลือกใช้ชุดชั้นในสำหรับใส่นอนโดยเฉพาะ เพื่อไม่ส่งผลกระทบตอนการนอนหลับ แถมยังช่วยรักษาทรงให้หน้าอกมีรูปทรงที่สวยงามไปอีกนานด้วย
5.ชุดชั้นในแบบโครงเหล็กทำให้เป็นมะเร็งเต้านม
ยังไม่มีผลงานวิจัยใดใดรองรับว่าข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริง เพียงแต่การสวมใส่ยกทรงแบบมีโครงเหล็ก อาจไปกดทับระบบหมุนเวียนโลหิตและเสียดสีผิวบริเวณโครงเหล็กได้ อาจเลือกใส่ให้เหมาะสมกับกิจกรรมและระยะเวลาก็เพียงพอแล้วค่ะ
6.โนบราบ่อยๆ หน้าอกจะหย่อนยานเป็นถุงกาแฟ
การใส่ยกทรงก็เพื่อเป็นการจัดทรงให้ดูสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ซัพพอร์ตให้ดูกระชับ ซึ่งการจะหย่อนยานได้นั้นต้องเป็นไปตามวัยและตามสภาพของสถานะความเป็นแม่คนนั่นเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลานาน ไม่เกี่ยวกับการโนบราค่ะ
7. .ปรับสายรัดชุดชั้นในเพื่อลดความอึดอัดได้หรือไม่?
สายรัดชุดชั้นในต้องจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่พอดี ไม่แน่นเกินไป และอยู่ในตำแหน่งเดียวกันทั้งสองข้าง เพียงเท่านี้หน้าอกก็มีทรงสวยแล้ว
8.ชุดชั้นในมีวันหมดอายุ
โดยทั่วไปแล้วชุดชั้นในจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 -12 เดือน ถ้าชุดชั้นในตัวเก่งที่เราใส่อยู่นั้นเริ่มหย่อนยาน ไม่กระชับ ก็ควรที่จะหาซื้อตัวใหม่โดยไม่ต้องรอถึง 12 เดือนก็ได้ค่ะ
ส่วนชุดชั้นในที่เสื่อมสภาพแล้ว รวมไปถึงกางเกงในเก่า หรือไม่ได้สวมใส่ สามารถส่งต่อไปยัง โครงการ "บราเก่าเราขอ" ของบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือชุดชั้นในวาโก้ ซึ่งทางวาโก้จะคัดแยกบราที่ยังคงสภาพดีไปมอบให้กับสตรีในบ้านพักฉุกเฉิน (แต่เนื่องจากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงละเว้นวิธีการนี้ไปก่อน เพราะคำนึงเรื่องสุขอนามัย) ส่วนที่เหลือก็จะนำไปทำลายในเตาเผาระบบปิดความร้อนสูง 1,800 องศาเซลเซียสเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีแบบ Zero Waste เป็นการลดปริมาณขยะเป็นศูนย์ โดยวิธีการเผานี้ไม่ก่อให้เกิดขี้เถ้า หรือฝุ่น PM 2.5 และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นอันตราย และยังช่วยลดปริมาณขยะตกค้างจากการฝังกลบ
โดยสามารถนำชุดชั้นในเก่าหรือเสื่อมสภาพที่ไม่ใช้แล้วทุกแบรนด์ มาบริจาคได้ที่วาโก้ช็อป และเคาน์เตอร์วาโก้ทุกสาขาทั่วประเทศได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ทางวาโก้ยังเพิ่มช่องทางบริจาคผ่านทางไปรษณีย์มายังฝ่าย CSR บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) 132 ซ.เจริญราษฎร์ 7 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-296-9979
วิธีสังเกตชุดชั้นในตัวเก่งของเราว่ากำลังหมดอายุแล้วหรือยัง
1. โครงเปลี่ยนรูปทรง ไม่ว่าจะเกิดจากอายุการใช้งานที่นานแล้ว หรือการซักอย่างผิดวิธี แต่ถ้าหากโครงเหล็กของบราเริ่มบิดงอแล้วล่ะก็ น่าจะถึงเวลาเปลี่ยนบราสักที
2. เต้าทรงย่น หรือฟองน้ำยุบ หากเต้าของบรา หรือฟองน้ำเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม ก็เป็นอีกสัญญาณที่บอกว่าบรานั้นเสื่อมสภาพแล้ว
3. ลำตัวด้านข้างยืด บราที่ดีควรจะกระชับและซัพพอร์ตทรวงอกได้อย่างเต็มที่ หากบราเริ่มย้วย ไม่กระชับ ก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว
4. สายยกทรงเลื่อน หากปรับบาร์แล้ว สายบรายังเลื่อนหลุดอีก นั่นก็หมายความว่าถึงเวลาเปลี่ยนชุดชั้นในตัวใหม่แล้วค่ะ
5.ใส่แล้วไม่พอดีกับรูปร่าง เมื่อเวลาผ่านไป รูปร่างเราก็เปลี่ยนไปด้วย หากบราเริ่มไม่พอดีแล้ว ก็ควรจะซื้อใหม่ ทางที่ดีควรวัดขนาดใหม่ทุกครั้ง และลองสวมใส่ก่อนตัดสินใจซื้อด้วย
เหล่านี้คือเกร็ดข้อมูลเกี่ยวกับเสื้อชั้นใน ที Wandeehouse นำมาฝากสาวๆ ได้รู้และปฏิบัติดูแลตัวเอง เพื่อรักษาหุ่นดีๆ เชฟปัง หากข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ต่อพวกท่านและคนที่คุณรักอย่าลืมแชร์ต่อๆ กันไปด้วยนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทีมงานค่ะ ^ ^