หน้าร้อนแบบนี้ Wandeehouse มีของดีบรรเทาร้อน ลดอาการอักเสบของผิวมาฝากค่ะ นั่นคือ เจลว่านหางจระเข้ หรือ Aloe Vera Gel นั่นเอง โดยแปรรูปจากว่านหางจระเข้สดๆ มาให้เราใช้งานได้ง่ายขึ้น จากสูตรเคล็ดลับความสวยในครัวเรือน มาสู่แพ็คเกจจิ้งสวยเก๋ตามชั้นวางจำหน่ายในร้านบิวตี้สโตร์ หรือ ดรักสโตร์ ก็ตาม ตามจริงแล้วเราใช้ว่านหางจระเข้ในการบรรเทาอาการแสบร้อน รักษารอยไหม้ ลดอาการอักเสบของผิวมานานนม แต่กว่าจะตัดว่าน กว่าจะฝานเปลือก ยางเยิ้มไปอีก เดี๋ยวนี้สะดวกสบายกว่ามากค่ะ ด้วยมี เจลว่านหางจระเข้มากมายหลายแบรนด์ให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดขายแตกต่างกันไป ซึ่ง เจลว่านหางจระเข้ สามารถใช้บำรุงผิวได้ทุกวัน ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ต่อให้ไม่มีรอยไหม้แต่อย่างใด แต่สรรพคุณของ เจลว่านหางจระเข้ คือการเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว โดยไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมง่าย เนื้อเบา ทำให้เหมาะกับอากาศเมืองไทย และตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่ชอบความเหนอะเนื้อแน่นๆ จากครีมมอยส์เจอไรเซอร์ทั่วไปอย่างแน่นอนค่ะ งั้นเรามาดูกันว่า Aloe Vera Gel ตัวไหนเป็นอย่างไรกันบ้าง เพื่อให้สาวๆ ได้นำไปประกอบการตัดสินใจดูนะคะ
เจลว่านหางจระเข้ ตัวไหนดี ตัวไหนปัง
เจลว่านหางจระเข้ Nature Republic aloe vera gel
ปริมาณ 300 ML. ราคา 199 บาท
ไม่เอ่ยถึงแบรนด์เกาหลีตัวนี้ไม่ได้เลย จัดเป็นตัวท็อปที่ทำเอาสาวๆ ไปกวาดจากเกาหลีกลับกันเพียบ ด้วยเจลว่านหางจระเข้ถึง 92% ส่วนอีก 8% นั้นประกอบด้วย น้ำ แอลกอฮอล์ และสารให้ความชุ่มชื้นลดการอักเสบรวมถึง Antioxidant ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระนั่นเอง เนื้อเจลซึมง่าย บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ใช้ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย หากใครมีผิวแพ้ง่ายแนะนำให้เทสที่ท้องแขนก่อนนะคะ
เจลว่านหางจระเข้ Burnova Gel
ปริมาณ 25 g. ราคา 50 บาท
ปริมาณ 70 g. ราคา 180 บาท
เป็นเวชสำอางที่หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อ และ ร้านขายยาทั่วไป ประกอบไปด้วยว่านหางจระเข้ 99.5% ส่วนอีก 0.5% เป็นสารสกัดจากแตงกวาและสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีส่วนช่วยทั้งเพิ่มความชุ่มชื่นและลดรอยดำ โดยส่วนผสมทั้งหมดเป็นออแกนิกส์อีกด้วย นอกจากนี้ยัง ปราศจากน้ำหอม ปราศจากแอลกอฮอล์ ปราศจากสี ปราศจากเมนทอล และปราศจากการบูร สาวผิวแพ้ง่าย ผิวเป็นสิวก็ใช้ได้ ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ลดอาการระคายเคืองจากแสงแดด ลดอาการอักเสบ ช่วย ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สาวๆ สายบิวตี้เลิฟมากๆ
เจลว่านหางจระเข้ Smooto Aloe-E Snail Bright Gel 99.5%
ปริมาณ 50 g. ราคา 49 บาท
ถูกและดียังมีอยู่จริงค่ะ จุดเด่นคือหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง พกพาสะดวกในรูปแบบซอง แถมยังประกอบไปด้วย ว่านหางจระเข้ถึง 99.5% อีก 0.5% ได้แก่ วิตามิน E ช่วยให้รอยแผลเป็น รอยสิว จุดด่างดำดูจางลง เมือกหอยทาก ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรง รูขุมขนกระชับ ลดการเกิดสิวผด สิวอุดตัน หน้าไม่เรียบ และ ไฮยาลูรอน ฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน เป็นขุย ผิวขาดน้ำ ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นผิว โดยปราศจากแอลกอฮอล์ ทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่าย
สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมายถึง 10 วิธีได้แก่
1.พอกหน้าหลังทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์
2. ทาบำรุงผิวกาย สำหรับผิวแพ้ง่าย
3. พอกหน้าก่อนนอน
4. ทาผิวหลังออกแดด
5. ทารอยแผลเป็นสิว
6. บำรุงมือและเล็บ
7. แปะสำลี ถุงใต้ตา ผิวคล้ำ อดนอน
8. ทารอยแผลเป็นเรียบ แผลเป็นนูน
9. ทาก่อนแต่งหน้า เมคอัพติดทน
10. ทาข้อศอก ส้นเท้า หัวเข่า
เจลว่านหางจระเข้ Banana Boat Aloe Vera Gel
ปริมาณ 90 ML. ราคา 150 บาท
Banana Boat Aloe Vera Gel แบรนด์สายกันแดดอย่างแท้ทรู และโปรดักส์ตัวนี้จึงออกแบบมาสำหรับ ผิวที่ผ่านการออกแดดมาโดยเฉพาะ สามารถใช้ร่วมกับครีมกันแดดได้ นอกจากส่วนผสมของว่านหางจระเข้แล้ว ยังมีส่วนผสมของแตงกวา และแอลกอฮอล์ ทำให้มีความเย็นมาก ใช้แล้วสบายผิว ช่วยลดอาการแสบร้อนหรืออาการระคายเคืองได้ดี อาจไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายค่ะ ควรทดลองกับผิวบริเวณท้องแขนก่อนใช้จริง
เจลว่านหางจระเข้ Innisfree Aloe Revital Soothing Gel 93%
ปริมาณ 300 ml. ราคา 280 บาท
เนื้อเจลแห้งไว ไม่เหนียวเหนอะ และที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้า และผิวกายแม้กระทั่งกับเส้นผมก็สามารถใช้งานได้ ตัวเจลมาแบบใสเนียน มีความเย็นและให้ความสดชื่น วัตถุดิบตัวว่านหางจระเข้นี้มาจากเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ เหมาะใช้สำหรับปลอบประโลมผิวจากการระคายเคืองและผิวเผาไหม้จากแสงแดด เพราะมันคืนความชุ่มชื่นได้ดีมาก
แต่ละผลิตภัณฑ์มีจุดแข็งแตกต่างกันไป คำแนะนำคือ หากผิวแพ้ง่ายแล้วล่ะก็ ควรเลือกชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมจะปลอดภัยที่สุดนะคะ