
"ยาม่วง" หรือ “เจนเชี่ยนไวโอเล็ต” ที่ในไทยคุ้นกันดีจากการนำมาใช้กวาดลิ้นรักษาโรคเชื้อราในช่องปากเด็ก เนื่องจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับงานวิจัยว่า ในสัตว์ที่ใช้ยาม่วงไประยะหนึ่งจะทำให้เป็นมะเร็ง ทำให้เยื่อบุผิวในช่องปากระคายเคือง เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ เรามีเกร็ดความรู้จาก เลี้ยงลูกตามใจหมอ มาบอกให้ทุกคนได้รู้กันไว้นะคะ
ยาม่วง ที่ใช้กวาดลิ้น รักษาโรคเด็ก ทำให้เป็นมะเร็งจริงหรือ?
เฟซบุ๊กเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ ระบุว่า...
‘ยาม่วง’ หรือ เจนชียลไวโอเล็ต หรือ เยนเชียลไวโอเล็ต เป็นยาที่ปลอดภัย ใช้ได้ตามคำแนะนำปกติตามข้อบ่งชี้ ในอเมริกายังคงเป็นยาที่ซื้อขายได้ที่ร้านค้า (Over-the-counter; OCT) ที่ไทย ปู่ย่าตายายเราใช้กันมานมนาน ส่วนใหญ่ก็ใช้ป้ายปากรักษาแผลในปาก หรือป้ายแผลภายนอก ซึ่งใช้เป็นยาสามัญประจำบ้านได้ตามปกติ ไม่มีข้อมูลพบความเชื่อมโยงระหว่างการใช้เจนเชียลไวโอเล็ตกับการเกิดโรคมะเร็งในมนุษย์แต่อย่างใดและยังนำมาใช้ได้ทางคลินิก ส่วนข้อมูลที่ว่ากันว่าเป็นสารก่อมะเร็ง นั่นเป็นการทดลองในสัตว์ โดยเฉพาะหนู ที่ได้รับเจนเชียลไวโอเล็ตใน ‘ขนาดสูง’ พบว่าเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับชนิด Hepatocellular carcinoma และมะเร็งต่อมไทรอยด์

แต่ในทางเวชปฏิบัติไม่ได้ใช้ยาม่วงกันบ่อยแล้ว เพราะเชื้อราในปากปัจจุบันมียาฆ่าเชื้อราที่มีประสิทธิภาพดีให้ใช้ แผลร้อนในหรือแผลที่ผิวหนัง มีวิธีดูแลความสะอาดทำแผลใช้ยาฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสมแล้ว และเวลาเราใช้ยาม่วง เราแต้ม ไม่ได้ยกซด ดังนั้นเราไม่ได้รับขนาดที่สูงขนาดนั้น
มีคำแนะนำที่ประเทศแคนาดาว่า เราไม่ควรใช้ยาม่วงติดต่อกันยาวนานเกิน 6 เดือน แต่ใครจะทาปากทุกวันติดต่อกันครึ่งปี เอาจริง ๆ แค่ใช้แต่พอดีก็พอ สำหรับข่าวที่พาดหัวว่า “ยาม่วงอันตราย ใช้แล้วลูกเสี่ยงเป็นมะเร็ง” นี่ถือว่าข้อมูลเป็นเท็จอย่างมหันต์ เพราะไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันเลยแม้แต่เปเปอร์เดียวจนถึงปัจจุบัน
สรุปแล้ว ยาม่วงยังคงใช้ได้ ใช้ในปริมาณที่พอดี แต่ปัจจุบันไม่นิยมใช้กันแล้ว เพราะการรักษาเชื้อราในปากปัจจุบันมียาฆ่าเชื้อราที่มีประสิทธิภาพดีให้ใช้
ขอบคุณที่มาจาก : เลี้ยงลูกตามใจหมอ